อุตสาหกรรมของคุณจะได้อะไรจากการใช้งาน Data Historian?

อุตสาหกรรมของคุณจะได้อะไรจากการใช้งาน Data Historian?

อุตสาหกรรมของคุณจะได้อะไรจากการใช้งาน Data Historian?

Data Historian ดีกว่าระบบ SCADA และ DCS อย่างไร?

Data Historian ทำหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ในรูปแบบ Time-series และสร้างการเชื่อมโยงที่สมบูรณ์แบบระหว่าง OT และ IT ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อวิเคราะห์กระบวนการผลิตในแบบเรียลไทม์ได้

Historian แตกต่างจาก SCADA และ DCS  ตรงที่ SCADA และ DCS จะเน้นที่การควบคุมกระบวนการผลิตในปัจจุบันมากกว่าและแนะนำผู้ปฏิบัติงานในการตัดสินใจกรณีที่เกิดสัญญาณเตือนหรือสถานะการณ์ที่ผิดปกติบางอย่าง ทั้งระบบ SCADA และ DCS ต่างก็มีความสามารถในการบันทึกข้อมูลย้อนหลังแต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการใช้งานซอฟต์แวร์ Historian

1. แหล่งข้อมูลจริงเพียงแห่งเดียว

ข้อมูลที่ได้มาจากเซ็นเซอร์ เช่น อุณหภูมิ แรงดัน พลังงานไฟฟ้า เป็นต้น สามารถนำมาจัดการข้อมูลตามบริบทที่ต้องการได้ เช่น เวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดของการผลิต ซึ่งจะทำให้เราเห็นภาพสถานการณ์เฉพาะของกระบวนการผลิตได้ด้วยการเจาะลึกเกี่ยวกับพารามิเตอร์ตัวนั้น  ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดเวลาของฝ่ายปฏิบัติการและผู้จัดการคุณภาพเท่านั้น ข้อมูลที่ได้มาโดยอัตโนมัติทำให้พวกเขามั่นใจว่าข้อมูลนั้นถูกต้อง ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถตัดสินใจได้โดยมีข้อมูลที่อิงจากข้อเท็จจริง ไม่ใช่สมมติฐาน

2. ช่วยปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเกิดปัญหาด้านคุณภาพ Historian จะช่วยให้เราตรวจสอบว่าเงื่อนไขใดที่ทำให้เกิดปัญหาและเกิดขึ้นในชุดการผลิตใด ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่จะระบุหรือแยกว่ากระบวนการผลิตใดเป็นสาเหตุของปัญหา ซึ่งจะช่วยให้เราฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาด้านคุณภาพที่คล้ายคลึงกันในอนาคต ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อผลผลิต

ความสามารถในการหาปัญหาที่แน่นอนในกระบวนการผลิตยังเป็นพื้นฐานสำหรับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องของกระบวนการผลิต พารามิเตอร์ต่างๆ ของกระบวนการสามารถวัดและปรับแต่งได้อย่างละเอียดเพื่อเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลผลิตโดยรวมของโรงงานและลดต้นทุนโดยหลีกเลี่ยงความผิดพลาดจากการผลิตในอนาคต

3. ลด Downtime ด้วยการตรวจจับแนวโน้มความผิดปกติ

เมื่อมีข้อมูลที่ได้จากการผลิต Historian สามารถตรวจจับความผิดปกติในระหว่างกระบวนการผลิตได้ เช่น การรั่วไหลหรืออุณหภูมิที่ผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว ลดต้นทุนจากความเสียหายและการซ่อมแซมให้เหลือน้อยที่สุด ผู้ปฏิบัติงานสามารถตรวจจับความผิดปกติได้ด้วยตนเอง หรือโดยอัตโนมัติผ่านซอฟต์แวร์ Historian

 

1

4. ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการทำ Predictive Maintenance

Historian จะไม่เพียงแต่บันทึกปริมาณของผลิตภัณฑ์ที่ไหลผ่านมิเตอร์วัดการไหลเท่านั้น แต่ยังแสดงด้วยว่าปั๊มนั้นทำงานนานแค่ไหน หรือมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานนานแค่ไหน ข้อมูลที่แม่นยำสามารถใช้เพื่อกำหนดเวลาการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive maintenance) และส่งข้อความเตือนล่วงหน้าเมื่อเกินเกณฑ์ที่กำหนด

5. Energy Consumption Improvement Projects

Data historian ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ข้อมูลการผลิตเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องทางอ้อมกับกระบวนการผลิตได้ เช่น การใช้พลังงาน เนื่องจากการใช้พลังงานกลายเป็นต้นทุนหลักในอุตสาหกรรมการผลิต การมีข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้พลังงานสำหรับแต่ละส่วนของสายการผลิตจึงกลายเป็นสี่งที่ต้องการเพื่อใช้ประกอบเป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงในผลิตภัณฑ์แต่ชิ้นหรือแต่ละชุดการผลิต  และนำข้อมูลที่ได้ไปใช้เพื่อจัดทำโครงการประหยัดพลังงาน ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อผลกำไรของธุรกิจของคุณ

สรุป

Historian จะทำหน้าที่เก็บข้อมูลในแบบ Time-series และจัดเตรียมข้อมูลเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ การทำเช่นนี้จะทำให้สามารถใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจในประเด็นต่างๆได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านคุณภาพหรือด้านพลังงาน การนำ Historian ไปใช้ในธุรกิจจะช่วยปรับปรุงงานในแง่มุมต่างๆ ของกระบวนการผลิต เช่น การลดต้นทุน การปรับปรุงผลผลิต และการลดเวลาหยุดทำงาน (Down time) เป็นต้น

บทความที่เกี่ยวข้อง