บริษัท โซนิค ออโตเมชั่น จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่าย Allen-Bradley(AB)

Aliquam porta volutpat consectetur. Morbi elementum semper efficitur. Pellentesque habitant morbi tristique senectus et netus et malesuada fames ac turpis egestas. Vestibulum in ante quam. Integer faucibus blandit neque, at laoreet odio varius sit amet. In rutrum orci quis orci sollicitudin, eu suscipit est ornare. Fusce vitae neque nulla.

System

26 November 2019

การประหยัดพลังงานด้วยอินเวอร์เตอร์รีเจนเนอร์เรทีฟ (Regenerative Inverter)

การประหยัดพลังงานด้วยไดรฟ์รีเจนเนอร์เรทีฟ (Regenerative Drive)           ปัจจุบัน Inverter หรือ AC Drive หรือ Variable Frequency Drive(VFD) ซึ่งในที่นี้ขอเรียกว่า ไดรฟ์ เป็นที่นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางทั้งในเรื่องประหยัดพลังงานไฟฟ้าและการควบคุมกระบวนการผลิตทั่วไป  โดยปกติโหลดที่สามารถใช้ไดรฟ์หรืออินเวอร์เตอร์เพื่อการประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพคือโหลดประเภท Variable Torque เช่น ปั๊ม และพัดลม เป็นต้น  แต่ยังมีอีกวิธีการหนึ่งคือการประหยัดพลังงานไฟฟ้าจากการรีเจนเนอร์เรชั่น (Regeneration) ที่เกิดจากมอเตอร์ วัตถุประสงค์หลักของมอเตอร์ไฟฟ้าคือการแปลงพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานกล แต่ถ้าความเร็วซิงโครนัส(synchronous speed)ของมอเตอร์ช้ากว่าความเร็วของโรเตอร์  มอเตอร์จะทำหน้าที่เสมือนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและแปลงพลังงานเชิงกลเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยทั่วไปแล้วพลังงานนี้จะถูกป้อนกลับเข้าไปที่ตัวเก็บประจุไฟฟ้าของบัส DC (DC bus)  แต่บัส DC สามารถจัดการกับแรงดันไฟฟ้าที่จำกัดและอาจก่อให้เกิด Overvoltage fault ซึ่งเราเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ว่า Regeneration และพลังงานไฟฟ้าที่เกิดขึ้นนี้จะต้องหาทางไปที่ไหนสักแห่งและถ้ามีพลังงานนี้มีมากเกินไปอาจทำให้ไดรฟ์หรืออินเวอร์เตอร์เกิดความเสียหายได้ ส่วนใหญ่แล้วจะใช้ตัวต้านทานเบรคแบบไดนามิก (Dynamic braking resistor) เพื่อลดพลังงานที่เกิดขึ้นนี้  อย่างไรก็ตามวิธีการใช้ตัวต้านทานเพื่อลดพลังงานที่เกิดขึ้นนี้จะเปลี่ยนพลังงานไปเป็นความร้อนซึ่งเป็นพลังงานที่สูญเปล่าไป   แต่แทนที่จะปล่อยให้พลังงานนี้สูญเสียไปเราสามารถใช้โซลูชั่นที่จะกล่าวต่อไปมาใช้เพื่อนำพลังงานนี้กลับมาใช้งานใหม่ได้   […]

System

26 November 2019

เคล็ดไม่ลับ “ประหยัดกว่าด้วยการควบคุมอินเวอร์เตอร์ผ่าน Ethernet”

เคล็ดไม่ลับ “ประหยัดกว่าด้วยการควบคุมอินเวอร์เตอร์ผ่าน Ethernet” การควบคุมการทำงานของอินเวอร์เตอร์(Inverter) มักจะสั่งงานผ่านอินพุตเอาต์พุตของ PLC โดยใช้สัญญาณทั้งดิจิตตอลและอนาลอก เช่น Start, Stop, Speed reference และ Fault เป็นต้น ทำให้ต้องใช้อินพุตเอาต์พุตทั้งดิจิตอลและอนาลอกจำนวนหลายจุดสำหรับอินเวอร์เตอร์หนึ่งตัว  แต่ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ยุคที่อุปกรณ์ต่างๆในกระบวนการผลิตสามารถเชื่อมต่อกันผ่านระบบสื่อสาร ซึ่ง Ethernet เป็นหนึ่งในระบบการสื่อสารที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการสื่อสารภาคการผลิตและเป็นระบบการสื่อสารหลักที่ใช้กับระบบ IT เช่นกัน  จะว่าไปแล้ว OT (Operation Technology) กับ IT(Information Technology) กำลังผสานกันเป็นหนึ่งเดียวผ่าน Ethernet ต่อไปนี้เราจะอธิบายถึงการนำ PLC ขนาดเล็กไปควบคุมอินเวอร์เตอร์โดยผ่าน Ethernet ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถลดจำนวนสายสัญญาณระหว่าง PLC กับอินเวอร์เตอร์ได้  และการทำก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดผู้เขียนกลับมองว่ามันง่ายกว่าวิธีการเดิมเสียด้วยซ้ำ รูปข้างล่างนี้แสดงตัวอย่างการต่อ Micro850 ซึ่งเป็น PLC ขนาดเล็กของ Allen-Bradley กับ PowerFlex 525 และแสดง IP address ของอุปกรณ์แต่ละตัว จากรูปข้างบนจะเห็นว่า […]

System

4 November 2019

สื่อสารผ่าน Modbus TCP/IP

 การสื่อสารผ่าน Modbus TCP/IP โปรโตคอลยอดนิยมที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในวงการอุตสาหกรรมคงหนีไม่พ้น Modbus ซึ่งมีทั้ง Modbus RTU และ Modbus TCP ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีโปรโตคอลอื่นๆที่มีสมถรรนะที่ดีกว่า Modbus มากมาย  แต่ Modbus ก็ยังเป็นโปรโตคอลคลาสสิคและได้รับความนิยมจนถึงทุกวันนี้  ซึ่งโปรโตคอล Modbus ได้รับการพัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 โดย Modicon Incorporated เพื่อใช้กับระบบควบคุมอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรมและคอนโทรลเลอร์    และมันได้กลายเป็นวิธีการมาตรฐานในอุตสาหกรรมสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลแบบ on/off และแบบอนาลอกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อุปกรณ์ที่สื่อสารด้วย Modbus โดยใช้วิธีการ Master-Slave (หรือ Client-Server) จะมีอุปกรณ์เพียงตัวเดียวซึ่งคือ Master (หรือ Client) สามารถเริ่มต้นการสื่อสารได้เท่านั้น (queries)  ส่วนอุปกรณ์ตัวอื่น ๆ จะทำหน้าที่เป็น Slaves (หรือ servers) จะตอบสนองต่อการสื่อสารนั้น โดย Slave จะส่งข้อมูลที่ร้องขอกลับไปยัง Master หรือโดยการดำเนินการบางอย่างตามที่ Master ร้องขอ […]

System

4 November 2019

ระบบแอร์ตู้คอนโทรล

ระบบระบายความร้อนตู้คอนโทรล วันที่เขียนบทความนี้เป็นวันที่อากาศร้อนมากๆวันหนึ่ง  เรียกว่าร้อนตับแตกกันเลยล่ะจนทำให้ผมสงสารตัวเองที่ต้องเจอกับอากาศร้อนๆแบบนี้และก็อดสงสัยไม่ได้ว่าพวกอุปกรณ์ควบคุมที่อยู่กันอย่างแออัดในตู้นั้นมันจะเป็นยังงัยกันบ้าง  ถึงแม้พวกมันจะไม่มีชีวิตแต่ความร้อนก็ส่งผลกระทบต่อพวกมันได้อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตในโรงงานของคุณได้  จึงเป็นที่มาของคำถามที่ว่า ทำไมการระบายความร้อนจึงสำคัญสำหรับตู้คอนโทรลของคุณ เป็นเรื่องปกติที่ผู้ออกแบบระบบควบคุมอุตสาหกรรมมักมองข้ามความสำคัญของการระบายความร้อนของตู้  ด้วยเหตุนี้ตู้ควบคุมจำนวนมากได้รับการออกแบบมาเพื่อการระบายอากาศตามธรรมชาติและไม่ได้พิจารณาผลกระทบของอุณหภูมิแวดล้อมกับความร้อนที่เกิดขึ้นจากอุปกรณ์ภายในตู้  ส่งผลให้ไม่สามารถรักษาอุณหภูมิภายในของตู้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ ผลที่ตามมาก็คืออุปกรณ์อาจร้อนเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีอากาศร้อนเช่นนี้  ทำให้ความเสี่ยงที่อุปกรณ์จะทำงานล้มเหลวเพิ่มขึ้นและอายุการใช้งานของอุปกรณ์สั้นลงเร็วกว่ากำหนด  ความเสี่ยงนี้สามารถลดลงได้หากมีการตรวจสอบอุณหภูมิของตู้ควบคุมและติดตั้งระบบระบายความร้อนที่เหมาะสมถ้าจำเป็น ทำไมตู้คอนโทรลร้อน? อุณหภูมิของตู้ควบคุมอุตสาหกรรมนั้นมีความสัมพันธ์โดยตรงกับอัตราความร้อนที่เกิดขึ้นภายในตู้จากอุปกรณ์ต่างๆ  การใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า พีแอลซีและไดร์ฟที่เพิ่มขึ้นก็จะยิ่งสร้างความร้อนมากขึ้น  นี่คือที่มาของการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะสร้างความร้อนจำนวนมาก นอกจากนั้นแนวโน้มการลดขนาดตู้ให้เล็กลงโดยอัดอุปกรณ์ต่างๆเข้าไปในตู้ยิ่งส่งผลให้สร้างความร้อนมากขึ้นเช่นกัน ในขณะที่พื้นที่ระบายความร้อนน้อยลง ผลที่ตามมาของการระบายความร้อนไม่เพียงพอ ความสามารถของอุปกรณ์ควบคุมที่จะทำงานได้ดีในขณะอุณหภูมิสูงนั้นแตกต่างกันอย่างมาก แม้ว่าผู้ผลิตจะบอกว่าอุปกรณ์เหล่านั้นสามารถใช้งานในที่อุณหภูมิสูงได้   แต่ต้องเข้าใจว่าอายุการใช้งานของอุปกรณ์เหล่านั้นคงสั้นลง นอกจากนั้นอุปกรณ์ที่มีความละเอียดอ่อนอาจมีความคลาดเคลื่อนจากที่ควรจะเป็นทำให้การควบคุมผิดพลาด  และเป็นเรื่องไม่ปกติแน่นอนที่อุปกรณ์ควบคุมด้วยไมโครโปรเซสเซอร์ เช่น PLC จะทำงานได้ดีในสภาวะอุณหภูมิสูง ปัจจัยการทำความเย็นที่สำคัญ วิธีการที่ใช้ในการระบายความร้อนของตู้ควบคุมอุตสาหกรรมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าอุณหภูมิภายในของตู้ควบคุมเป็นไปตามที่ต้องการและหลีกเลี่ยงความร้อนที่ไม่คาดคิดจะเข้ามากระทบ มีขั้นตอนดังต่อไปนี้ ขั้นตอนแรกจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องประเมินอุณหภูมิสูงสุดที่สามารถรับได้ภายในตู้  อุณหภูมิที่เลือกควรจะพอเหมาะกับสภาพแวดล้อมเพราะสิ่งนี้ช่วยให้มั่นใจว่าการทำงานจะไม่มีปัญหาและโดยทั่วไปอุณหภูมินี้ไม่ควรเกิน 35 °C ขั้นตอนต่อไปคือการประเมินปริมาณความร้อนที่เกิดขึ้นภายในตู้ ข้อมูลการสร้างความร้อนของอุปกรณ์ต่างๆนั้นสามารถหาได้จากผู้ผลิตอุปกรณ์ จากนั้นคำนวณภาระความร้อนทั้งหมดในรูปวัตต์  เช่น VFD มีประสิทธิภาพ 95% แสดงว่ามี Loss ประทาณ 5% ซึ่ง Loss นี้จะอยู่ในรูปของความร้อนถ้าอินเวอร์เตอร์มีขนาด 100 วัตต์ และทำงานที่เต็มกำลังก็จะมี Loss เท่ากับ 5 […]

System

4 October 2019
1 2 4