Edge computing คือ อะไร และประโยช์นกับ IoT

Edge computing คือ อะไร และประโยช์นกับ IoT

Edge computing คือ อะไร และประโยช์นกับ IoT

เมื่อพูดถึง Edge computing หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร ส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับ Cloud computing ซึ่งปัจจุบันไปที่ไหนก็มีคนพูดถึงแต่คลาวด์ (Cloud) เนื่องจากข้อมูลข่าวสารที่เพิ่มมากขึ้น ความซับซ้อนที่มากขึ้น ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นจากการลงทุนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ การดูแลรักษารวมทั้งต้องใช้บุคลากรผู้เชี่ยวชาญ  จึงทำให้ Cloud Computing ได้รับความนิยมในยุค IoT ทั้งภาคธุรกิจขององค์กร และกำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในภาคการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรม  ซึ่งคลาวด์จะอาศัยเครือข่าย Internet ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลเมื่อไรหรือที่ใดๆ ก็ได้

 

การนำคลาวด์เข้ามาใช้กับภาคการผลิตอาจมีข้อแตกต่างจากการใช้กับข้อมูลระดับบนขององค์กร เนื่องจากข้อมูลในภาคการผลิตจะอ้างอิงกับเวลาที่เรียกว่า Real Time ถ้าเราส่งข้อมูลเหล่านี้ขึ้นคลาวด์โดยปราศจากการคัดกรองและจัดเตรียมข้อมูล  จะทำให้ต้องส่งข้อมูลจำนวนมหาศาลขึ้นคลาวด์โดยไม่จำเป็น  ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิด Edge Computing ขึ้น แล้ว Edge computing คืออะไร?  แท้จริงมัน คือ การประมวลผลที่ขอบ (ของเครือข่าย) ซึ่งอาจจะอยู่ตรงไหนก็ได้ระหว่างอุปกรณ์นอกสุด (End devices) ซึ่งจะทำหน้าที่เก็บข้อมูลและประมวลผลข้อมูลที่อยู่ใกล้กับแหล่งข้อมูลให้มากที่สุด ข้อมูลอาจถูกวิเคราะห์หรือจัดรูปแบบเชิงสถิติ  หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่าเป็นการนำข้อมูลมาประมวลผลที่ต้นทางที่ใกล้กับแหล่งข้อมูลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจุดที่ใกล้ข้อมูลที่สุดนี้เรียกว่า Edge นั่นเอง

 

 

ประโยชน์ของการประมวลผลที่ต้นทาง (Edge computing benefit)

1.ความปลอดภัยของข้อมูล

ความปลอดภัยซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญของภาคการผลิต  ประโยชน์ของการใช้ Edge computing จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันภัยจากการจูโจมของไซเบอร์  การใช้สถาปัตยกรรมของคลาวด์(cloud computing architecture) มีลักษณะรวมศูนย์ซึ่งมีโอกาสถูกจูโจมได้ง่ายกว่า  การใช้ Edge computing จะช่วยกระจายการจัดเก็บข้อมูลและการประมวลผล  ซึ่งเป็นการยากที่จะทำให้ระบบล่มได้ทั้งหมด

2.ความเร็วในการรับส่งข้อมูล (Speed)

ความเร็วในการรับส่งข้อมูลถือเป็นข้อดีของ Edge Computing เพราะถ้าต้องส่งข้อมูลขึ้นคลาวด์ซึ่งอยู่ไกลออกไปหรืออยู่อีกซีกโลกหนึ่ง  และมีข้อมูลหลายอย่างนอกจากข้อมูลภาคการผลิต มันจะทำให้มีข้อมูลมากมายที่ต้องส่งไปที่นั่นผ่านเครือข่าย Internet ซึ่งส่งผลต่อความเร็ว  จะเป็นการดีกว่าถ้าข้อมูลถูกประมวลก่อนที่จะส่งออกไปซึ่งจะช่วยลดปริมาณข้อมูลและความถี่ในการส่งได้

3.ความน่าเชื่อถือ(Reliability)

การที่เราส่งข้อมูลจากภาคการผลิตขึ้นคลาวด์ จะมั่นใจได้อย่างไรว่าข้อมูลที่ได้จะไม่สูญหายและได้รับข้อมูลครบถ้วนไหม  ถ้าอินเตอร์เน็ตล่มล่ะจะเกิดอะไรขึ้น  เนื่องจากการส่งข้อมูลออกนอกโรงงานมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้มากมายและถ้าข้อมูลเหล่านั้นเป็นแบบ Real time มันก็จะทำให้ข้อมูลขาดช่วงไป ในทางกลับกันเรายังคงสามารถเก็บข้อมูลต่างๆได้ถ้าใช้งาน Edge computing ภายในภาคการผลิตและเราเป็นคนควบคุมปัจจัยต่างๆนั้นเอง